D-Glucan (ดีกลูแคน)
1. กระตุ้นเซลล์ภูมิคุ้มกันในทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ซึ่งโดยปกติแล้ว เซลล์คุ้มกันในสิ่งมีชีวิตจะไม่ทำงาน
จนกว่าจะตรวจพบสิ่งแปลกปลอม เบต้า-กลูแคนจะไปกระตุ้น
การทำงานของเซลล์คุ้มกันเหล่านี้ให้ทำงานอยู่ตลอดเวลา
2. ต่อต้านโรคมะเร็งและลดอนุมูลอิสระ มีการนำเอาเบต้า-กลูแคน
มาใช้ในผู้ป่วยที่เป็นโรคมะเร็งผิวหนังในต่างประเทศ
และพบว่าจำนวนเซลล์มะเร็งลดลงเมื่อได้รับเบต้า-กลูแคน
3. กระตุ้นให้แผลหายเร็ว โดยจะไปเพิ่มประสิทธิภาพ
ของการเพิ่ม collagen ให้กับบริเวณเนื้อเยื่อที่เป็นแผล
4. เพิ่มการสร้างและการเจริญเติบโตของเม็ดเลือดขาว
5. ปรับระดับการทำงานของเซลล์ภูมิคุ้มกันในร่างกาย
6. ลดผลข้างเคียงของเคมีบำบัด เช่น การฉายแสง
7. ปรับการทำงานของภูมิต้านทานที่ผิดปกติ เช่น ภูมิแพ้
8. ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ฟื้นฟูตับอ่อน
9. ช่วยลดระดับคอเรสเตอรอลในเลือด
10. ลดอาการปวดตามข้อ ไขข้ออักเสบ
11. ลดการอักเสบ การติดเชื้อแทรกซ้อน
12. บรรเทาอาการท้องผูก ช่วยระบบขับถ่าย
13. รักษาความชุ่มชื้น ฟื้นฟูสภาพผิว ลบเลือนริ้วรอย
สรรพคุณและประโยชน์จากสารสกัดในดีกลูแคน
1.Hydrolyzed Fish Collagen (ฟิช ไฮโดรไลซ์ คอลลาเจน)
คอลลาเจนจากปลาทะเล เสริมสร้างเนื้อเยื่อและอิลาสติน
ให้กับผิวได้อย่างรวดเร็ว เพิ่มความยืดหยุ่น กระชับให้กับผิว
และยังช่วยให้ผิวอุ้มน้ำได้มากขึ้น ส่งผลให้ผิวชุ่มชื้น
เปล่งปลั่งเรียบเนียน ไม่แห้งกร้าน ชะลอการเกิดริ้วรอย
2. Shark Cartilage Powder (ผงกระดูกอ่อนปลาฉลาม)
กระดูกอ่อนปลาฉลามประกอบไปด้วย โปรตีน คอลลาเจน
และสารในกลุ่มไกลโคสะมิโนไกลแคน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสารคอนดรอยติน
ซึ่งมีผลในการบรรเทาหรือรักษาโรคข้อเสื่อม และสารในกลุ่มนี้บางชนิด
ยังมีฤทธิ์ในการต้านการอักเสบและกระตุ้นภูมิคุ้มกันอีกด้วย
รวมไปถึงการเสริมความแข็งแรงและความยืดหยุ่นของโปรตีนคอลลาเจน
และอิลาสตินในชั้นหนังแท้ จึงมีส่วนสำคัญในการทำให้ผิวของคนเรานุ่มชุ่มชื้นขึ้น
มีความยืดหยุ่น ผิวเต่งตึงกระชับ ซึ่งเป็นคุณลักษณะของผิว
เมื่อยังเยาว์วัยที่เราปรารถนาเป็นเจ้าของ
ประโยชน์ของกระดูกอ่อนปลาฉลาม
-ป้องกันมะเร็ง โดยสาร Glucoaminoglycans (GAGs)ที่พบในกระดูกอ่อนปลาฉลามยับยั้งการสร้างเส้นเลือดฝอยใหม่ๆที่จะไปเลี้ยงเซลล์ที่ผิดปกติ หรือเซลล์มะเร็ง ทำให้เซลล์เหล่านั้นขาดสารอาหาร และไม่สามารถเจริญเติบโตได้ต่อไปอีก
- มีคอลลาเจน ( Collagen ) และคอนดรอยติน ซัลเฟตช่วยบรรเทาอาการปวด อักเสบ ในผู้ป่วยที่เป็นโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์
- ลดอาการอักเสบของผิวหนัง
- สร้างระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายให้แข็งแรง
3.Beta-Glucan (เบต้า-กลูแคน)
เบต้า กลูแคน เป็นสารในกลุ่มโพลีแซคคาไรค์ ที่ดีที่สุด
ทำให้เซลล์ผิวแข็งแรงและมีอายุอ่อนลงได้จริง เป็นสารที่เข้าไป
บำรุงลึกถึงระดับโครงสร้างของไฟโบบราสท์ เพิ่มการสังเคราะห์
ใยคลอลาเจนในชั้นผิว ทำให้ผิวแข็งแรงยืดหยุ่นได้ดีมาก
ช่วยลดริ้วรอยให้เบาบางลงและชะลอการเกิดริ้วรอยใหม่
เบต้ากลูแคนช่วยไปซ่อมแซมDNA/RNAในเซลล์ผิวต้านอนุมูลอิสระ
และเพิ่มภูมิคุ้มกันในเมล็ดเลือดขาว เซลล์น้ำเหลืองในผิวจะ
ส่งผลให้ผิวเปล่งปลั่ง ไม่หมอง คล้ำไม่ซูบซีด ช่วยชะลอความเสื่อม
ของเซลล์เนื่องจากเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีฤทธิ์
แรงมากกว่าวิตามินอีและซี 100 เท่า
4. Metabolic Enzyme (เมตาบอลิค เอนไซม์)
เมตาบอลิคเอนไซม์ ซึ่งเป็นเอนไซม์ในระดับเซลล์
ที่มีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงสารอาหารให้กลายเป็นพลังงาน
ซึ่งหากเอนไซม์เหล่านี้ทำงานอย่างไม่มีประสิทธิภาพจะทำให้ร่างกายอ่อนแอ
และไม่สมบูรณ์เท่าที่ควรเป็นที่สังเกตอย่างชัดเจนว่า
มีคนเป็นจำนวนมากที่กินอาหารจำนวนไม่น้อยในแต่ละวัน
แต่น้ำหนักกลับไม่ค่อยขึ้นมากนัก ในขณะเดียวกัน
มีคนอีกจำนวนหนึ่งที่ไม่ได้กินอาหารมากมายกว่าคนทั่วๆไปเลย
แต่น้ำหนักกลับขึ้นได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจอธิบายได้จากประสิทธิภาพ
ในการเผาผลาญพลังงานที่แตกต่างนั่นเอง
เมตาบอลิกเอนไซม์ยังมีบทบาทในการทำงานของอวัยวะต่างๆ
ของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นการบีบตัวของกล้ามเนื้อหัวใจ
การทำงานของสมอง และการทำงานของต่อมไร้ท่อต่างๆ
หากขาดสารอาหารที่จำเป็นรวมทั้งเอนไซม์ การทำงานของระบบอวัยวะต่างๆ
ในร่างกายก็จะไม่เป็นปกติ นอกจากนี้เอนไซม์ยังมีบทบาทสำคัญ
ในการต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสาเหตุของ
ความเสื่อมของร่างกาย และโรคเรื้อรังต่างๆ
5.สารสกัดของ Gac (แกก)
ผลฝักข้าว ถูกนำมาใช้ในการบำรุงรกษาสุขภาพมาตั้งแต่สมัยโบราณ
ซึ่งช่วยฟื้นฟูร่างกายในระดับเซลล์ ป้องกันการทำลาย DNA จากอนุมูลอิสระ
ส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ในอดีตมักถูกใช้สำหรับ
ส่งเสริมการเจริญเติบโตของเด็ก รักษาโรคตาบอดกลางคืน
และใช้ทาแผลที่ติดเชื้อ เพื่อช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น
ฝักข้าว มีปริมาณเบต้าแคโรทีน มากกว่าแครอทถึง 10 เท่า
มีไลโคปีนมากกว่ามะเขือเทศ 70 เท่า มีกรดไขมันสูงที่สุดในหมู่ผลไม้
ซึ่งกรดไขมันช่วยให้แคโรทีนอยดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้สูงขึ้น
6. Calcium Ascorbate (แคลเซียม แอสคอร์เบต)
แคลเซียมแอสคอร์เบต มีคุณสมบัติเหมือนวิตามินซี ทุกประการ
แต่แตกต่างตรงที่ไม่เป็นกรด เป็นวิตามินที่ละลายได้ในน้ำ
ร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นมาเองได้ จึงจำเป็นต้องได้รับ
โดยการรับประทานเข้าไป วิตามินซีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย
ช่วยเพิ่มภูมิคุ้นกันในร่างกายได้เป็นอย่างดี เพราะสามารถป้องกัน
และรักษาอาการอักเสบอันเนื่องมาจากแบคทีเรียและไวรัสได้
เป็นตัวสร้างคอลลาเจน ซึ่งเป็นเส้นใยทำหน้าที่เชื่อมเนื้อเยื่อต่างๆ
ไว้ด้วยกัน ทั้งยังเป็น ตัวสร้างกระดูก ฟัน และหลอดเลือดให้แข็งแรง
- ช่วยให้แผลสดและแผลไฟไหม้หายเร็วขึ้น
- ช่วยให้การดูดซึมธาตุเหล็กดีขึ้น ซึ่งเป็นการสร้างเม็ดเลือดทางอ้อม
- ช่วยป้องกันการเปลี่ยนแปลงของเซลล์
- ช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือด
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น